โฉนดครุฑแดง vs เขียว vs ดำ vs น้ำเงิน แตกต่างกันอย่างไร

-
-
-

เวลาพูดถึง เอกสารสิทธิ์ที่ดิน หลายคนอาจเรียกรวมกันว่า โฉนด ทั้งหมด แต่ในความจริงแล้ว โฉนดแต่ละประเภทมีความหมายและสิทธิในที่ดินที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเราสามารถสังเกตได้จาก “สีของตราครุฑ” ที่ปรากฏอยู่บนเอกสาร ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 สีหลัก คือ ครุฑแดง ครุฑเขียว ครุฑดำ และครุฑน้ำเงิน

แต่ละสีไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสวยงามบนกระดาษ แต่มันคือ สัญลักษณ์ทางกฎหมาย ที่บ่งบอกระดับสิทธิ์ในการครอบครอง ใช้ประโยชน์ ซื้อขาย หรือจำนองที่ดินได้หรือไม่ วันนี้ Innohome จะพาคุณเข้าใจทุกประเภทแบบละเอียด เพื่อให้คุณรู้แน่ชัดว่าที่ดินในมือคุณมีสิทธิ์มากน้อยแค่ไหน และเหมาะกับการลงทุนหรือไม่กันครับ

1. โฉนดครุฑแดง

โฉนดครุฑแดง หรือที่รู้จักกันในชื่อ น.ส.4 (น.ส.4 จ) คือเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่มีสถานะ “สูงสุด” ในระบบกฎหมายไทย ผู้ถือครองมีกรรมสิทธิ์เต็มรูปแบบ สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินได้อย่างเสรี ไม่ว่าจะสร้างบ้าน ขุดบ่อ ปลูกพืช ซื้อขาย โอน จำนอง หรือใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ก็ทำได้ทั้งหมด

สิ่งที่ทำให้ครุฑแดงต่างจากประเภทอื่นคือ “มีการรังวัดชัดเจน” และ “มีแผนที่ระวางแน่นอน” ซึ่งหมายถึงตำแหน่ง ขอบเขต และเนื้อที่ของที่ดินถูกกำหนดไว้ในระบบของกรมที่ดินอย่างเป็นทางการ การโอนกรรมสิทธิ์หรือเปลี่ยนมือจึงทำได้ง่ายและปลอดภัยที่สุด

Innohome มองว่า ถ้าคุณกำลังจะซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อลงทุนในระยะยาว โฉนดครุฑแดงคือเอกสารที่ควรมองหาเป็นอันดับแรก เพราะเป็นกรรมสิทธิ์แท้ ไม่ต้องกลัวปัญหาการทับซ้อนหรือถูกโต้แย้งสิทธิ์ในอนาคต

2. โฉนดครุฑเขียวหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)

โฉนดครุฑเขียวไม่ได้ถือเป็นโฉนดที่ดินเต็มรูปแบบ แต่คือเอกสารที่เรียกว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ซึ่งออกโดยสำนักงานที่ดินเพื่อรับรองว่าผู้ครอบครองสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นได้ถูกต้องตามกฎหมาย

ลักษณะเด่นของครุฑเขียวคือมี “ระวางภาพถ่ายทางอากาศ” ระบุตำแหน่งชัดเจน สามารถซื้อขาย โอน หรือจำนองธนาคารได้ และในอนาคตก็สามารถขอเลื่อนสถานะเป็นโฉนดครุฑแดงได้ แต่กรรมสิทธิ์ยังไม่สมบูรณ์เท่าโฉนดแท้ เพราะรัฐยังถือว่าผู้ถือครอง “มีสิทธิครอบครอง” แต่ยังไม่ใช่ “เจ้าของกรรมสิทธิ์เต็มตัว”

ในทางปฏิบัติที่ดินครุฑเขียวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จริง เช่น ทำเกษตรหรือสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด เพราะซื้อขายได้ง่ายแต่ราคายังต่ำกว่าโฉนดครุฑแดง อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าแนวเขตไม่ทับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวนหรือที่ดินสาธารณะ เพราะหากทับเขตจะไม่สามารถยื่นออกโฉนดได้

มุมมองจาก Innohome ครุฑเขียวถือเป็นตัวกลางระหว่างสิทธิ์ครอบครองกับกรรมสิทธิ์แท้ เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการซื้อไว้พัฒนาในอนาคต โดยเฉพาะพื้นที่ที่กำลังจะมีโครงการของรัฐ เช่น ถนนตัดใหม่หรือเขตเศรษฐกิจ เพราะสามารถเปลี่ยนเป็นครุฑแดงได้เมื่อรัฐรังวัดเพิ่มเติม

3. โฉนดครุฑดำหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 / น.ส.3 ข.)

โฉนดครุฑดำเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ถือเป็น “ระดับก่อนครุฑเขียว” หรือสิทธิ์ที่ยังไม่แน่นอนเต็มที่ เพราะไม่มีระวางภาพถ่ายทางอากาศกำหนดแนวเขตชัดเจน แต่ยังถือว่าเป็นสิทธิ์การครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ในปัจจุบันโฉนดครุฑดำมี 2 แบบหลัก คือ

  • น.ส.3 ออกโดยนายอำเภอในพื้นที่ที่ยังไม่มีระวางแผนที่
  • น.ส.3 ข. ออกโดยสำนักงานที่ดินหลังจากรัฐประกาศยกเลิกอำนาจนายอำเภอ

แม้โฉนดครุฑดำจะยังไม่สามารถใช้ซื้อขายได้ทันทีเหมือนครุฑแดง แต่สามารถโอน จำนอง หรือขอรังวัดเพื่อเลื่อนเป็นครุฑเขียวได้ การรังวัดใหม่จะต้องประกาศให้ราษฎรรอบข้างทราบอย่างน้อย 30 วัน เพื่อป้องกันปัญหาทับซ้อน

Innohome แนะนำว่า หากคุณถือครองครุฑดำและมีแผนจะขายในอนาคต ควรเริ่มต้นขอรังวัดและขอเลื่อนสถานะตั้งแต่ตอนนี้ เพราะราคาตลาดของครุฑเขียวและครุฑแดงต่างกันหลายเท่าตัว ที่ดินบางแปลงเมื่อเปลี่ยนสถานะแล้ว มูลค่าขยับขึ้นมากกว่า 50–100% ทันที

4. โฉนดครุฑน้ำเงินหรือเอกสารส.ป.ก.4-01 (ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม)

ที่ดินครุฑน้ำเงินคือเอกสารสิทธิ์ประเภท ส.ป.ก.4-01 ที่ออกโดยสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งมอบให้เกษตรกรผู้มีฐานะยากจนเพื่อใช้ทำกินเท่านั้น

สิทธิ์ในการครอบครองที่ดินประเภทนี้มีข้อจำกัดชัดเจน คือ ห้ามซื้อขาย ห้ามโอน ห้ามให้เช่า และห้ามนำไปจำนองกับธนาคาร ที่ดินส.ป.ก.4-01 สามารถใช้ปลูกบ้านและทำเกษตรได้ แต่ต้องทำประโยชน์ด้วยตนเอง ห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาใช้แทน ซึ่งแม้จะโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ แต่สามารถ ตกทอดทางมรดกได้ โดยทายาทจะต้องเป็นเกษตรกรเช่นเดียวกัน และต้องทำเกษตรในพื้นที่นั้นจริง หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข รัฐมีสิทธิ์เรียกคืนที่ดินได้

โดย Innohome ให้ความเห็นว่า ที่ดินครุฑน้ำเงินเหมาะกับเกษตรกรแท้จริงที่ต้องการมีที่ทำกินโดยไม่เน้นเก็งกำไร เป็นที่ดินที่สร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัยมากกว่าการลงทุน หากคุณได้รับสิทธิ์นี้มา ควรใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องและอย่าหลงเชื่อบุคคลที่เสนอซื้อหรือแลกเปลี่ยน เพราะการโอนลักษณะนั้นผิดกฎหมายทันที

ปรียบเทียบโฉนดแต่ละประเภทแบบเข้าใจง่าย

ประเภทโฉนด

สีครุฑ

สิทธิ์ในที่ดิน

ซื้อขาย/โอน

จำนองได้หรือไม่

ออกโดยหน่วยงาน

น.ส.4 (โฉนดที่ดิน)

แดง

กรรมสิทธิ์เต็ม 100%

ได้

ได้

สำนักงานที่ดิน

น.ส.3 ก.

เขียว

สิทธิ์ทำประโยชน์ มีระวางแผนที่

ได้

ได้

สำนักงานที่ดิน

น.ส.3 / น.ส.3 ข.

ดำ

สิทธิ์ครอบครอง ต้องรังวัดก่อน

ได้ (หลังรังวัด)

ได้ (บางกรณี)

นายอำเภอ / สำนักงานที่ดิน

ส.ป.ก.4-01

น้ำเงิน

ใช้เพื่อการเกษตรเท่านั้น

ไม่ได้

ไม่ได้

สำนักงานปฏิรูปที่ดิน

สรุป 

ในมุมของเรา(Innohome) การเข้าใจโฉนดไม่ใช่เรื่องของกฎหมายอย่างเดียว แต่คือการรู้จัก “ขอบเขตของสิทธิ์” ที่คุณมีในทรัพย์นั้น เพราะในตลาดอสังหาริมทรัพย์จริง สีของครุฑมีผลโดยตรงต่อราคาซื้อขาย ความน่าเชื่อถือ และศักยภาพการพัฒนาในอนาคต

ถ้าคุณถือครุฑแดง คือ คุณคือเจ้าของที่ดินอย่างเต็มสิทธิ์
ถ้าคุณถือครุฑเขียว คือ คุณมีสิทธิ์ใช้ประโยชน์ได้และสามารถพัฒนาได้ในอนาคต
ถ้าคุณถือครุฑดำ คือ คุณควรวางแผนรังวัดเพื่อเพิ่มมูลค่าและป้องกันข้อพิพาท
แต่ถ้าคุณถือครุฑน้ำเงิน คือ คุณกำลังดูแลมรดกของแผ่นดินที่สร้างความมั่นคงให้ครอบครัว

และหากคุณไม่แน่ใจว่าโฉนดในมือเป็นแบบใดหรือควรดำเนินการต่ออย่างไร Innohome พร้อมช่วยตรวจสอบและให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้คุณใช้สิทธิ์ในที่ดินได้อย่างถูกต้องและคุ้มค่าที่สุดครับ