ที่ดินเปล่ายังน่าลงทุนจริงหรือ? ในอดีต “ที่ดินเปล่า” มักถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่เสี่ยงต่ำและคุ้มค่าเสมอ เพราะที่ดินมีจำนวนจำกัด ขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามการขยายตัวของเมืองและความเจริญ แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2025 นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามว่า การซื้อที่ดินเปล่าเพื่อเก็บไว้เก็งกำไรยังคงคุ้มค่าแค่ไหน ท่ามกลางบริบทใหม่ทั้งด้านภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การเปลี่ยนแปลงของแผนผังเมือง การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และพฤติกรรมผู้ซื้อ-ผู้ลงทุนรุ่นใหม่ที่ต่างออกไปจากเดิม
คำตอบคือ ยังคุ้มค่าแต่ต้องคัดเลือกและวางกลยุทธ์มากกว่าเดิม เพราะไม่ใช่ที่ดินทุกทำเลที่ราคาจะดีดตัวขึ้น และไม่ใช่นักลงทุนทุกคนที่สามารถถือครองได้ยาวโดยไม่กระทบสภาพคล่อง
ข้อได้เปรียบของการลงทุนที่ดินเปล่า
จุดแข็งที่สุดของการลงทุนในที่ดินคือ ที่ดินไม่มีวันเสื่อมสภาพ ต่างจากบ้านหรือคอนโดที่มีค่าเสื่อมและค่าเสื่อมราคา ที่ดินยังคงมีศักยภาพเพิ่มขึ้นได้ตลอดจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น รถไฟฟ้า ทางด่วน สนามบิน หรือโครงการพัฒนาเมือง เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมักส่งผลให้ราคาที่ดินในพื้นที่รอบข้างพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
อีกเหตุผลหนึ่งคือ ความยืดหยุ่นของการใช้ประโยชน์ ระหว่างที่ยังไม่ขาย นักลงทุนสามารถสร้างรายได้ชั่วคราวจากที่ดินเปล่า เช่น ให้เช่าทำเกษตรเชิงพาณิชย์ การจัดตลาดนัด ลานจอดรถ หรือแม้การปรับพื้นที่เป็นแปลงย่อยลงทุนต่อ ซึ่งช่วยลดต้นทุนภาษีที่ต้องจ่ายทุกปี และเพิ่มผลตอบแทนระหว่างการถือครอง
ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวังในปี 2025
แม้ว่าการลงทุนที่ดินเปล่าจะมีข้อดี แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ความเสี่ยง สิ่งที่นักลงทุนต้องรับรู้คือ กฎหมายและภาษีใหม่ โดยเฉพาะ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เจ้าของต้องจ่ายเป็นประจำทุกปี แม้ถือครองที่ดินเฉย ๆ ก็มีภาระต้นทุนที่สูงกว่าสมัยก่อน ซึ่งอีกประเด็นที่สำคัญคือ แนวเวนคืนของภาครัฐ ที่อาจกระทบกับทำเล หากที่ดินแปลงใดอยู่ในแนวเวนคืนของโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ก็อาจถูกเวนคืนในราคาประเมินที่ต่ำกว่าราคาตลาดจริง ซึ่งกลายเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องตรวจสอบเสมอก่อนซื้อ
นอกจากนี้ การกระจายของเมืองอาจไม่ได้เติบโตทุกทำเล หากซื้อที่ดินในพื้นที่ที่ไม่มีแผนโครงสร้างพื้นฐานหรือไม่ได้อยู่ในเขตขยายเมือง ราคาที่ดินอาจแทบไม่ขยับขึ้นเลยแม้เวลาผ่านไปหลายปี
กลยุทธ์ลงทุนที่ดินเปล่าให้คุ้มในปี 2025
นักลงทุนที่ต้องการซื้อเก็บควรเน้น การเลือกทำเลตามผังเมืองและทิศทางโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ เช่น รถไฟฟ้าสายใหม่ สนามบินแห่งใหม่ หรือโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม เพราะจุดเหล่านี้คือ “ตัวผลักดันราคา” ที่ทำให้ที่ดินในทำเลนั้นเติบโต
อีกกลยุทธ์ที่นิยมคือ การซื้อที่ดินแปลงใหญ่แล้วแบ่งขาย เนื่องจากที่ดินเปล่าแปลงเล็กในเมืองหรือทำเลใกล้ความเจริญขายต่อได้ง่ายกว่าการถือครองแปลงใหญ่เป็นเวลานาน กลยุทธ์นี้ช่วยให้ปลดล็อกสภาพคล่องได้เร็วกว่าและทำกำไรจากการขายบางส่วนระหว่างถือครอง
ซื้อที่ดินเปล่าเพื่อลงทันนั้นเหมาะกับใคร?
เจ้าของบ้านควรเริ่มจาก คำนวณยอดหนี้ที่เหลืออยู่กับธนาคารเทียบกับวงเงินที่จะได้รับจากการขายฝาก เพื่อรู้ว่าเพียงพอในการปิดหนี้และเหลือเงินใช้หรือไม่ ถัดมา ควรระบุเงื่อนไขในสัญญาอย่างชัดเจนและตรวจสอบให้ละเอียด หากไม่มั่นใจควร ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือนายทุนที่น่าเชื่อถือ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำสัญญาที่เอาเปรียบเจ้าของบ้าน
ขายฝากบ้านที่ยังผ่อนอยู่กับ InnoHome ได้หรือไม่?
ในภาพรวม การซื้อที่ดินเปล่ายังคงคุ้มค่าในปี 2025 หากนักลงทุนมีเงินเย็นและพร้อมถือครองระยะยาว เพราะที่ดินคือสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในเชิงมูลค่า แต่ถ้าผู้ลงทุนมีสภาพคล่องจำกัดหรือหวังกำไรระยะสั้น การซื้อที่ดินเปล่าอาจไม่ตอบโจทย์นัก เพราะต้องเผชิญทั้งต้นทุนภาษีและความเสี่ยงจากการรอเวลาตลาดเติบโต
ดังนั้น ที่ดินเปล่าจึงเหมาะกับนักลงทุนที่เข้าใจตลาด วางแผนเชิงกลยุทธ์ และพร้อมปรับใช้ที่ดินเพื่อสร้างรายได้ระหว่างถือครอง
สรุปในปี 2025 การลงทุนที่ดินเปล่ายังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ไม่ใช่การซื้อเก็บโดยไม่ศึกษาข้อมูลเหมือนในอดีตอีกต่อไป นักลงทุนควรมี ข้อมูลผังเมืองแนวทางคมนาคมใหม่แผนเวนคืนและความคุ้มค่าของภาษีที่ดิน รวมถึงต้องกำหนดกลยุทธ์การใช้ที่ดินชัดเจนว่าจะเก็บเพื่อรอ หรือปล่อยสร้างรายได้ระหว่างถือครอง เพราะการซื้อที่ดินเปล่าที่ “ใช่” ในปี 2025 ยังสามารถสร้างกำไรได้สูง แต่การซื้อผิดทำเลก็อาจกลายเป็นต้นทุนที่จมอยู่นานหลายปีเช่นกัน