วิธีลงทุนขายฝาก พร้อมวิธีคำนวณกำไร

-
-
-

การลงทุนแบบ ขายฝาก กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นักลงทุนในตลาดอสังหาฯ นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในปี 2025 ซึ่งสถานการณ์เศรษฐกิจมีความท้าทาย ผู้คนจำนวนหนึ่งต้องการเงินสดทันทีเพื่อเสริมสภาพคล่อง การทำขายฝากจึงตอบโจทย์ทั้งผู้กู้และผู้ลงทุน ฝั่งเจ้าของทรัพย์ได้เงินก้อนไปใช้จ่าย ในขณะที่นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูงกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินทั่วไป

ความหมายของ ROI ในการขายฝาก

ROI หรือ Return on Investment หมายถึงอัตราผลตอบแทนที่คุณจะได้รับจริงเมื่อเทียบกับเงินลงทุนทั้งหมด ในการขายฝาก ผลตอบแทนไม่ได้มาจากดอกเบี้ยเท่านั้น แต่ยังต้องหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ออกด้วย เช่น ค่าธรรมเนียมที่ดิน ค่าภาษี และค่านายหน้า หากละเลยจุดนี้ไป ตัวเลข ROI ที่คำนวณได้อาจสูงเกินจริงและทำให้คุณวางแผนผิดพลาด

วิธีคำนวณ ROI และตัวอย่างจริง

การคำนวณ ROI หรือผลตอบแทนจากการลงทุนแบบขายฝาก เป็นวิธีการวัดว่าเงินที่คุณลงไปนั้นสร้างกำไรได้กี่เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับต้นทุนทั้งหมดที่ใช้ไป การคำนวณจึงไม่ควรดูแค่ “ดอกเบี้ยตามสัญญา” เพียงอย่างเดียว แต่ต้องนำค่าใช้จ่ายจริงมาหักออกด้วย เพราะผลตอบแทนที่แท้จริงคือกำไรสุทธิ ไม่ใช่กำไรขั้นต้น

โดยมีสูตรมาตรฐานในการคำนวณคือ

ROI (%) = (กำไรสุทธิ ÷ เงินลงทุนทั้งหมด) × 100

ตัวอย่างเช่น:

  • ลงทุน 1,000,000 บาท
  • สัญญาดอกเบี้ย 12% ระยะเวลา 12 เดือน
  • กำไรขั้นต้น = 120,000 บาท (1,000,000 × 12%)
  • หากมีค่าใช้จ่ายรวม 20,000 บาท → กำไรสุทธิ = 100,000 บาท
  • ROI ที่แท้จริง = 10% ต่อปี

ตัวอย่างนี้ชี้ให้เห็นว่า ตัวเลข ROI ที่แท้จริงมักต่ำกว่าดอกเบี้ยในสัญญาเสมอ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายแฝงเข้ามาเกี่ยวข้อง การเข้าใจและคำนวณ ROI อย่างถูกต้องจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้แม่นยำ และลดความเสี่ยงจากการคาดการณ์กำไรเกินจริง

เปรียบเทียบ ROI จากดีลขายฝากแบบต่าง ๆ

ตารางด้านล่างช่วยให้มองเห็นภาพชัดเจนว่าผลตอบแทนจากการขายฝากขึ้นอยู่กับวงเงิน อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลา

วงเงินลงทุนดอกเบี้ยต่อปีระยะเวลากำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายROI ต่อปี
500,000 บาท12%12 เดือน60,000 บาท12%
1,000,000 บาท10%12 เดือน100,000 บาท10%
2,000,000 บาท15%6 เดือน150,000 บาท7.5% (ครึ่งปี)

ยิ่งวงเงินสูงและอัตราดอกเบี้ยสูง ผลตอบแทนก็ยิ่งมาก แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าความเสี่ยงก็มากขึ้นตามไปด้วย

ปัจจัยที่มีผลต่อผลตอบแทน (ROI)

ก่อนลงทุน ขายฝากแต่ละครั้งควรพิจารณาปัจจัยสำคัญเหล่านี้

  1. อัตราดอกเบี้ย – ช่วงปกติอยู่ที่ 9–15% ต่อปี ดอกเบี้ยสูงมักสะท้อนความเสี่ยงสูง
  2. ระยะเวลาในสัญญา – ดีลสั้นอาจทำให้ ROI ต่อปีสูง แต่การหมุนเงินจบไวและอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  3. ความน่าเชื่อถือของผู้กู้ – หากไถ่ถอนไม่ได้ นักลงทุนอาจได้ทรัพย์แทน แต่ก็มีค่าใช้จ่ายและเวลาขายต่อ
  4. มูลค่าทรัพย์กับวงเงินลงทุน – ลงทุนต่ำกว่าราคาประเมินมาก จะปลอดภัยกว่าและหากทรัพย์หลุดไถ่ถอน คุณก็มีโอกาสได้กำไรจากทรัพย์สิน

ROI ที่ดูสูง จึงมาพร้อมปัจจัยเสี่ยงเสมอ นักลงทุนต้องประเมินทั้งผลตอบแทนและโอกาสสูญเสียไปพร้อมกัน

วิธีตรวจสอบก่อนลงทุนขายฝาก

การลงทุนขายฝากต้องอาศัยความรอบคอบมากกว่าการลงทุนรูปแบบอื่น เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเอกสารสิทธิและกฎหมายโดยตรง ขั้นตอนที่ไม่ควรละเลย ได้แก่

  1. ตรวจสอบราคาประเมินล่าสุดจากกรมที่ดิน ว่าทรัพย์มีมูลค่าเพียงพอเทียบกับวงเงินที่ลงทุน
  2. สำรวจสภาพตลาดในทำเล เช่น ความต้องการซื้อขายและปล่อยเช่า หากทรัพย์หลุดไถ่ถอน นักลงทุนสามารถขายหรือปล่อยเช่าได้ง่าย
  3. ตรวจสอบภาระผูกพันอื่น เช่น จำนองเดิม ภาษีค้างชำระ หรือหนี้บุริมสิทธิอื่น ๆ
  4. ทำสัญญาขายฝากให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีพยานหรือทนายร่วม เพื่อป้องกันปัญหาขัดแย้งในอนาคต

ควรคิดเสมอว่าการตรวจสอบทรัพย์และสัญญาอย่างรอบคอบ คือเกราะป้องกันความเสี่ยงที่ดีที่สุดของนักลงทุนขายฝาก

การขายฝากเป็นการลงทุนที่ ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเครื่องมือทางการเงินทั่วไป เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระแสเงินสดสม่ำเสมอและพร้อมรับความเสี่ยงที่มากขึ้น การคำนวณ ROI จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้คุณประเมินได้ว่าดีลที่เข้ามามีความคุ้มค่าจริงหรือไม่ หากคุณตรวจสอบทรัพย์อย่างละเอียด ทำสัญญาอย่างถูกต้อง และวางกลยุทธ์การเลือกดีลอย่างรอบคอบ การขายฝากยังคงเป็นเครื่องมือสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจในปี 2025